ปกติลูกค้างานบ้านมักไม่ทราบข้อมูล สามารถโทรเข้ามาเพื่อพูดคุย และให้ทางบริษัทสอบถามได้ แต่หากเป็นโรงงานควรเตรียมข้อมูลเบื้องต้น เช่น หลังคาเป็นทรงอะไร เป็นหลังคาชนิดไหน ความสูงของหลังคา อายุของหลังคา จุดรั่วซึมกี่จุดตรงไหนบ้าง โรงงานอยู่ที่ไหน ฯลฯ หากข้อมูลยิ่งละเอียดยิ่งทำให้ตีราคาได้ถูกต้อง ไม่มีปัญหาคลาดเคลื่อน

หากมีข้อมูลปัญหาหลังคารั่วที่พบอยู่แล้วสามารถส่งไลน์หรืออีเมล์ เพื่อสอบถามและประมาณราคาจากทางบริษัทได้ครับ

เนื่องจากบริษัททำงานเฉพาะด้านหลังคาเพียงอย่างเดียวมานานนับสิบกว่าปี มีประสบการณ์และข้อมูลปัญหาของหลังคาแต่ละชนิดแต่ละแบบอยู่ในฐานข้อมูล กรณีบ้านทั่วไป ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว หรือโรงงาน ปัจจุปันสามารถตรวจเช็คแบบบ้าน หรือแบบโรงงานเบื้องต้นจะได้จากอินเตอร์เน็ต ซึ่งหากทราบแบบแปลนหลังคา ชนิดของหลังคา อายุ ปัญหาที่พบ บริษัทสามารถตรวจเทียบเคียงจากข้อมูลที่เคยซ่อมมา และประเมินราคาเบื้องต้นให้ได้

แต่หากต้องดูหน้างานก่อน จะมีเก็บมัดจำค่าบริการซึ่งสามารถนำมาหักเป็นส่วนลดได้เมื่อมีงานว่าจ้างจริง

บริษัทเราจดทะเบียนบริษัทถูกต้อง เลขทะเบียนนิติบุคคล เลขที่ 0105553113104 ตั้งแต่ปี 2553 แต่เร่ิมทำงานหลังคาตั้งแต่ปี 2549 มีที่อยู่ติดต่อได้จริง ทั้งมีเบอร์โทร แฟ็กซ์ มือถือ อีเมล์ ไลน์ เฟชบุ๊ค ซึ่งลูกค้าสามารถติดต่อได้ตามที่ท่านสะดวก ( กรณีมือถือที่ยิงเข้ามาอาจไม่ติดต่อกลับ )

ก่อนเริ่มทำงานบริษัทจะพูดคุยสอบถามปัญหา และงานที่ต้องการซ่อม หากเราทำไม่ได้หรือไม่ได้รับงานประเภทที่แจ้งมา จะบอกลูกค้าตรงๆ และก่อนเริ่มทำงานมีเอกสาร ระบุเนื้องานที่ทำ ขอบข่ายการรับประกันมีใบรับประกันบริษัทให้ลูกค้าทุกรายเมื่อเสร็จงาน

บริษัทรับทำงานทั่วราชอาณาจักรครับ สำนักงานออฟฟิศและทีมช่างอยู่เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร ดังนั้นเขต กทมและปริมณฑลไม่มีปัญหาในการรับงาน แต่หากไปต่างจังหวัดอาจมีค่าใช้จ่าย ค่าเดินทางที่พัก เบี้ยเลี้ยงทีมช่าง เพิ่มขึ้น ราคาจะสูงกว่า กทมและปริมณฑล ครับ

เขตกรุงเทพฯบางจุดอาจไม่ได้รับงานครับ เช่นจุดที่รถติดหนักๆ จุดที่จอดรถไม่ได้ ไม่สามารถขนส่งวัสดุอุปกรณ์ของทีมช่างได้สะดวก รบกวนลองโทรเข้ามาเพื่อให้เจ้าหน้าที่สอบถามข้อมูลดูก่อนครับ

ติดต่อได้ตลอดเวลาครับ แต่หากเป็นทางโทรศัพท์และมือถือ จะติดต่อได้ในช่วงวันและเวลาทำงาน ( ช่วงกลางคืนขอพักผ่อนบ้าง เคยเจอหนักสุดโทรมาตีสอง แค่โทรมาถามเฉยๆ ) ถ้าเป็นในอีเมล์ ,โปรแกรมไลน์หรือเฟชบุ๊ค ติดต่อได้ตลอดเวลา ตอบกลับทุกข้อความ ปกติจะตรวจเช็คเป็นประจำครับ

โดยปกติเมื่อลูกค้ายืนยันสั่งซื้อ จะมีขั้นตอนให้บริษัทเตรียมอุปกรณ์ สั่งซื้อของ และมีคิวงานที่ลูกค้าท่านอื่นๆนัดไว้ก่อน โดยปกติจะเฉลี่ยที่ 7-14 วันครับ แต่หากเป็นลูกค้านัดรื้อเปลี่ยนหลังคาหากใช้เวลาหลายวันอาจต้องดูสภาพอากาศช่วงนั้นๆ และอาจต้องโอกาสฝนทิ้งช่วง

ปกติช่างชาวบ้านจะเอาน้ำสายยางฉีดบนหลังคาเมื่อทำเสร็จ แต่น้ำสายยางผ่านท่อเล็กๆ ฉีดยังงัยก็ไม่เหมือนฝนตก พอเทสแล้วจะไม่รั่ว พอฝนตกจริงแล้วรั่ว ช่างชาวบ้านก็จะบอกว่าไหลมาจากที่อื่น ถ้าจะซ่อมมีจ่ายเพิ่ม แต่ของบริษัทเราไม่เป็นแบบนั้น บริษัทมีใบรับประกัน ลูกค้ามีเวลาทดสอบกับฝนตกจริงตลอดช่วงเวลารับประกัน และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มหากเป็นปัญหาจากเนื้องานที่ซ่อมครับ ลูกค้าสามารถสังเกตได้เอง เช่น ยังมีน้ำหยดลงมา หรือหากมีฝ้าเพดานกั้นจะเห็นรอยคราบน้ำเปียกบนฝ้า ( ไม่ใช่คราบน้ำแห้งเก่าจะเป็นรอยน้ำเปียกใหม่ ) อย่างไรก็ดีการสังเกตรอยน้ำใหม่เก่าที่ฝ้าเพดาน อาจสังเกตยาก ลูกค้าสามารถถ่ายรูปจุดที่สงสัยส่งมาให้ทางบริษัทช่วยดูให้ได้ครับ

หากลูกค้าที่วางแผนจะซ่อมฝ้าเอง รบกวนดูในบทความเรื่องการซ่อมฝ้าเพดานของทางบริษัท เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและปัญหาซ่อมฝ้าแล้วแต่ยังมีคราบน้ำเรื่อยๆจนเข้าใจผิดว่าหลังคารั่ว แต่หากสะดวกควรซ่อมฝ้าเพดานพร้อมซ่อมหลังคา ซึ่งทางบริษัทมีให้บริการเพิ่มเติม( ไม่ได้แถมฟรีครับ ) พร้อมรับประกันฝ้าเพดานที่ซ่อมไปพร้อมกัน ตัดปัญหาต้องติดต่อหลายช่าง ลูกค้าไม่ต้องกังวลเรื่องฝ้าเพดานอีก

คิวงานจะต้องตามคิวงานที่มีลูกค้าอื่นนัดไว้ก่อนหน้า ปกติจะมีคิวลูกค้านัดต่อๆกัน เคยเร็วที่สุดคือวันรุ่งขึ้นเพราะคิวว่างตรงกัน แต่โดยทั่วไปเฉลี่ย 7 วัน ช้าที่สุดไม่เกิน 14 วัน ระบุให้ไว้ในใบรับประกันบริษัท

หลังคาส่วนต่อเติมเป็นปัญหาที่รับสายโทรเข้ามาสอบถามเป็นประจำ และมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาหลักๆน่าจะมาจากช่างที่รับต่อเติมแข่งราคากัน และตัดลดสเปคงานเพื่อให้ราคาถูกจนได้งาน โดยไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบถึงความสำคัญของงานที่ลดสเปค หรือเป็นช่างรับงานมีไม่มีประสบการณ์เองก็ไม่ทราบ ส่วนที่ถูกลดสเปคบ่อยที่สุดคือเสาเข็มเนื่องจากเสาเข็มที่ได้มาตรฐานมีมูลค่างานสูง แต่ส่งผลกับโครงสร้างทำให้ส่วนต่อเติมทรุดตัว ลามไปถึงโครงหลังคาเลื่อนขยับ ทำให้หลังคารั่วซ้ำแม้จะซ่อมไปแล้ว เนื่องจากโครงสร้างยังไม่หยุดทรุดตัว จึงต้องขออนุญาตพิจารณารับงานเป็นเคสๆไป

ปัจจุปันยังไม่มีสีหลังคาที่มีคุณสมบัติกันซึมขายในตลาด ไม่นับรวมเคมีกันซึมที่ผสมสี ซึ่งจะไม่มีคุณสมบัติของสีโดยตรงและราคาสูงหากนำมาใช้ทาแทนสี เนื่องจากการใช้เคมีกันซึมทาแทนสีต้องทาหนากว่าสีมาก เพื่อให้ได้คุณสมบัติกันซึม อนาคตอาจจะมีผู้ผลิตพัฒนาออกมา แต่ตอนนี้หากต้องการทำสีหลังคาใหม่พร้อมทำกันซึมยังต้องแยกงานออกเป็นสองส่วน เพื่อให้ค่าวัสดุลดลง แต่สามารถทำในคราวเดียวกันได้

จากประสบการณ์ที่อยู่กับหลังคาที่มีการใช้งานประจำพบว่า สีหลังคามีส่วนช่วยในการยืดอายุการใช้งานหลังคาโดยตรงทั้งที่ไม่มีคุณสมบัติกันซึม มาทำความเข้าใจกันก่อนครับ กระเบื้องหลังคาโดยปกติจะมีการเคลือบสีผิวมาจากโรงงาน สีหลังคาที่เคลือบมา จะช่วยในเรื่องการป้องกันรังสียูวี แสงแดด ความร้อน ลมฝน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวการในการทำลายพื้นผิววัสดุ เมื่อหลังคามีการใช้งานไปนานๆ สีเคลือบเหล่านี้จะเสื่อมสภาพ เป็นผง หรือหลุดร่อนออกไป ทำให้ไม่มีสิ่งป้องกันการเสื่อมสภาพของหลังคาโดยตรง เมื่อมีการทำสีหลังคาใหม่ หลังคาก็จะมีชั้นเคลือบผิวกลับมาเพื่อป้องกันมลภาวะต่างๆอีกครั้ง

จากประสบการณ์ที่ทางบริษัทเคยเห็นหลังคาที่มีการพ่นสีหลังคามาแล้ว จะมีสภาพกระเบื้องหลังคาไม่กรอบแตกง่ายเหมือนกระเบื้องหลังคาทั่วไปที่มีอายุการใช้งานเท่ากัน ปัจจุปันงานช่างฝีมือจะมีค่าแรงสูงขึ้น และราคางานเปลี่ยนหลังคาใหม่ก็มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น หากต้องการยืดอายุหลังคาและเพิ่มความสวยงามของตัวบ้านหรืออาคาร การพ่นสีหลังคาจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ

จากข้อมูลด้านบน ลักษณะหลังคาที่เหมาะกับการพ่นสีหลังคาใหม่ ที่พบบ่อยคือบ้านเดี่ยวกระเบื้องโมเนีย เนื่องจากงานเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาโมเนียเทียบกับราคางานพ่นสีหลังคาใหม่ งานสีหลังคายังมีราคาและผลลัพธ์ที่คุ้มค่าน่าลงทุนกว่า โดยแนะนำสำหรับบ้านที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป ซึ่งผิวกระเบื้องยังไม่กร่อนมาก เมื่อพ่นเสร็จออกมาจะใกล้เคียงกระเบื้องใหม่มากจนแยกแทบไม่ออก แต่หากกระเบื้องเก่ามาก ผิวกระเบื้องเริ่มผุกร่อน เมื่อพ่นสีเสร็จออกมาจะดูสีไม่ค่อยเนียนตา

รวมถึงบริการงานกันรั่วซึมหลังคาก่อนพ่นสีหลังคา ทำให้เหมือนได้หลังคาใหม่ การใช้งานไม่ต่างจากเปลี่ยนกระเบื้องหลังคา แต่งบประมาณถูกกว่ามาก

มักพบในบ้านที่จ้างช่างทาสีบ้านไปทาสีหลังคา โดยช่างทาสีบ้านไม่มีความเข้าใจงานหลังคา ใช้แปรงลวดขัดหลังคา ล้างหลังคาไม่ถูกต้อง ไม่มีรองพื้น และใช้สีทาบ้านแทนการใช้สีหลังคา

สีหลังคาจะมีฟิลม์สีและเม็ดสีคงทนกว่าสีทาบ้านมาก เนื่องจากต้องเผชิญกับแดด ลม ฝน ตลอดวันโดยตรงโดยไม่มีร่มเงาช่วยปิดบัง อีกทั้งเมื่อเจ้าของบ้านมีปัญหารั่วซึม ก็ให้ “ช่างทาสี”นั่นแหละซ่อมหลังคาด้วย "ช่างทาสี"จึงซ่อมหลังคาไปด้วยตามความเข้าใจของตนเอง

ที่สำคัญคือบางบ้านไม่ได้มีปัญหารั่วซึม แต่ช่างทาสีบ้าน ทาสีหลังคาโดยไม่มีความเข้าใจหลักการทำงานของกระเบื้องหลังคา กระเบื้องหลังคาจะมีการซ้อนทับกัน โดยจะออกแบบให้มีการไหลของน้ำฝนที่ตกลงมา ให้ไหลไปตามลอนและแผ่นกระเบื้อง โดยีร่องกันน้ำร่องรับน้ำซ่อนอยู่ข้างใต้ การทาสีขวางทางน้ำจึงทำให้หลังคารั่วซึมได้

ยิ่งกว่านั้นหากช่างซ่อมหลังคาอื่นเข้าไปแก้ไขงานช่างทาสีบ้าน การทาเคมีกันซึมต่างๆ จะต้องทาทับลงบนกระเบื้องหลังคาที่ช่างทาสีบ้านทาไว้ ซึ่งทำสีมาถูกขั้นตอนหรือไม่ก็ไม่ทราบได้ การจะใช้น้ำยาลอกสีกับกระเบื้องหลังคาก็ยากเนื่องจากน้ำยาลอกสีจะไหลลามไปถูกสีผนังบ้าน ดังนั้นหากสีหลังคาของช่างทาสีมีการลอกร่อน เคมีกันซึมที่ทาทับไว้ก็จะหลุดร่อนตามออกมา และหลังคาก็จะกลับมารั่วซึมอีก

โดยปกติวัสดุทุกอย่างมีอายุการใช้งาน หลังคาก็มีอายุการใช้งาน กระเบื้องโมเนียแบบมีลอนที่บริษัทเราเคยเห็นใช้นานสุดมานานถึง 50 ปีก็มี และเหมือนว่าเจ้าของบ้านก็จะใช้ต่อไปอีก กระเบื้องลอนคู่(รุ่นเก่ามีใยหิน)ที่เคยเห็นใช้มานาน 30 ปี ก็จะกรอบแตกง่ายซ่อมไม่คุ้ม แต่ทั้งนี้ระหว่างการใช้งานหลังคาก็จะมีรอบซ่อมบำรุงหลังคา เช่นเปลี่ยนแผ่นแตก ทากันซึม สีหลังคา ฯลฯ เฉลี่ยทุกๆ 10 ปี

แต่กระเบื้องโมเนียแผ่นเรียบ กับกระเบื้องลอนคู่แบบใหม่ไม่มีใยหิน ที่มักเรียกว่ากระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ เป็นกระเบื้องออกมาใหม่ช่วงสิบปีหลังนี้ ข้อมูลเก็บบันทึกยังมีไม่มาก คงต้องรอดูเป็นกรณีไป

แผ่นเมทัลชีท ที่เคยพบนานสุดเกือบ 30 ปี แต่เป็นแบบหนาคุณภาพดี พบเพียงสภาพสีเคลือบผิวเสื่อมสภาพ มีละอองสนิมจางๆเท่านั้น หากมีการพ่นเคลือบผิวด้วยสีหลังคาเมทัลชีทหรือฉนวนเคลือบผิวหลังคา ก็น่าจะยืดอายุการใช้งานไปได้อีกมาก

แต่ทั้งนี้ไม่สามารถนำมารวมกับแผ่นเมทัลชีทสมัยใหม่ได้ เนื่องจากคุณภาพแผ่นมาหลายเกรด หลายแหล่งที่มา มักใช้แผ่นบางเพื่อลดต้นทุนการก่อสร้าง คุณภาพของสีเหล็กที่อบมา บางโรงงานใช้แผ่นเมทัลชีทกับโซนที่มีความร้อนสูง มีไอกรดไอด่าง สารเคมี ซึ่งไม่ถูกกับเหล็ก จึงบอกแน่ชัดไม่ได้ต้องพิจารณาเป็นรายๆไป

หลังคา คสล.หรือดาดฟ้าคอนกรีต สมัยก่อนมักจะเป็นงานปูนเท หากมีการผสมน้ำยากันซึมในเนื้อปูนเท มีการแต่งผิวปูนที่เหมาะสม น่าจะอยู่ได้สบายๆ 30 ปีจึงจะเกิดปัญหารั่วซึม แต่สมัยใหม่มีการใช้พื้นสำเร็จรูปมากขึ้น ซึ่งต้องการขั้นตอนเทปูนทับหน้าที่ละเอียดถูกต้อง หากผิดพลาดจะมีปัญหารั่วซึมตั้งแต่ปีแรก แก้ไขได้ยากจึงควรระมัดระวังอย่างมาก

ส่วนใหญ่พบในบ้านที่กังวลเรื่องการรื้อเปลี่ยนกระเบื้องเดิม จึงคิดว่ามุงหลังคาเมทัลชีทหรือกระเบื้องใหม่ทับไปเลยง่ายกว่า อันนี้ค่อนข้างผิดหลักการครับ คือ โครงหลังคาเดิมจะต้องรับน้ำหนักกระเบื้องทั้งของใหม่ของเก่าที่มากกว่าเดิมไหวรึป่าว? และเมื่อตอนมุงต้องยึดแผ่นกระเบื้องใหม่ทะลุกระเบื้องข้างล่าง กระเบื้องเดิมจะมีแตกเพิ่มมั้ย? หากโครงหลังคาเดิมเป็นโครงเหล็กไม่ค่อยเท่าไหร่ครับ แต่หากเป็นโครงไม้สกรูยึดของเมทัลชีทไม่ได้ออกแบบมาสำหรับยึดกับแปไม้ มีแต่ยึดกับแปเหล็ก ปัญหารั่วซึมจะตามมาอีก

และเมื่อวัสดุทุกอย่างมีอายุการใช้งานและต้องมีการซ่อมบำรุง เมื่อหลังคารั่วอีกครั้ง คราวนี้จะหาสาเหตุยากมากครับ เพราะหลังคาซ้อนกันสองชั้น จุดน้ำรั่วเข้ามาแน่นอนว่าลงมาจากเมทัลชีทหรือกระเบื้องใหม่ด้านบน แต่จุดที่น้ำหยดจะออกมาจากหลังคากระเบื้องด้านล่างซึ่งมักจะไม่ตรงจุดกัน ยังไม่รวมหากกระเบื้องเดิมที่ถูกทับซึ่งเก่าอยู่แล้วทนไม่ไหว ค่อยๆแตกร้าวทีละจุด งานซ่อมบำรุงจะอีรุงตุงนังขนาดไหนครับ สุดท้ายก็ต้องรื้อกระเบื้องเก่าออกเพื่อมุงใหม่อยู่ดี เสียงบประมาณสูงกว่าเดิม และเสียหลายรอบ ไม่แนะนำเป็นอย่างยิ่งครับ