ข้อควรระวังในการเลือกเปลี่ยนหลังคาใหม่

สำหรับการเลือกใช้กระเบื้องหลังคาสำหรับบ้านปลูกใหม่ หรือบ้านเก่าที่ต้องการรื้อเปลี่ยนหลังคาใหม่

1. กระเบื้องหลังคาแต่ละชนิด เช่น โมเนีย ลอนคู่ เมทัลชีท ฯลฯ โดยปกติมักมีการใช้ระยะแป องศามุมลาดเอียงและการรับน้ำหนัก ไม่เท่ากัน กรณีบ้านหรืออาคารปลูกสร้างใหม่หากในแบบมีการกำหนดชนิดหลังคามาแล้ว หรือบ้านอาคารเก่าที่ผ่านการใช้งานมาแล้วก็ตาม หากต้องเปลี่ยนชนิดหลังคา ไม่ควรเลือกเปลี่ยนชนิดหลังคาด้วยตัวเอง ควรปรึกษาวิศวกรหรือผู้ชำนาญโดยตรง ก่อนเลือกเปลี่ยนชนิดหลังคา เพื่อป้องกันปัญหามุงแล้วรั่ว โครงหลังคาทรุด เปลี่ยนแล้วร้อนกว่าเดิม มีนกหนูเข้ามาในหลังคา ฯลฯ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการแก้ไข งบบานปลาย

2. หากบ้านเป็นทาวน์เฮ้าส์กระเบื้องส่วนใหญ่จะเป็นกระเบื้องลอนคู่ ซึ่งเป็นหลังคาด้านหลังส่วนใหญ่ของบ้านที่ไม่ได้โชว์อยู่ด้านหน้า แต่เจ้าของบ้านอาจดูได้ว่าหลังคาบ้านด้านหลังเป็นกระเบื้องอะไรโดยมองดูจากบ้านที่หันหลังชนกับเรา ซึ่งมักจะเป็นแบบบ้านเดียวกัน ซึ่งกระเบื้องลอนคู่อายุการใช้งานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 30 ปี อาจน้อยกว่าหรือมากกว่าตามมาตรฐานของแต่ละโครงการ เมื่อกระเบื้องลอนคู่ผ่านการใช้งานมาจนครบอายุ หรือซ่อมต่อไม่คุ้ม ทางเลือกที่เหมาะสมคือรื้อเปลี่ยนหลังคาใหม่โดยใช้กระเบื้องแบบเดิม ซึ่งทำให้การใช้งานและการซ่อมบำรุงไม่ต่างจากเดิม ซึ่งจังหวะที่รื้อเปลี่ยนหลังคาใหม่นี้ หากเจ้าของต้องการให้บ้านเย็นสบายขึ้น ก็สามารถให้ช่างเพิ่มฉนวนฟรอยสะท้อนความร้อนเข้าไปก่อนมุงหลังคาใหม่ ซึ่งจะทำให้บ้านเย็นอยู่สบายขึ้นโดยใช้งบประมาณที่เพิ่มขึ้นไม่มากเหมือนการใช้ฉนวนชนิดอื่นๆ

3. กรณีที่พบเห็นบ่อยในปัจจุปันคือ การมุงหลังคาดับเบิ้ลรูฟ ส่วนใหญ่มักมาจากแก้ปัญหาหลังคารั่วซึม หรือหลังคาเดิมหมดอายุ ซึ่งช่างหรือผู้รับเหมาแนะนำให้มุงหลังคาทับของเดิมไปเลย อาจจะแนะนำว่าลดขั้นตอนไม่ต้องรื้อกระเบื้องเดิม ไม่ยุ่งยาก ไม่มีฝุ่นเลอะเทอะ ได้หลังคาสองชั้นคุ้มกว่า กรณีนี้เจ้าของบ้านอาคาร ควรคิดให้รอบคอบก่อน เช่นโครงสร้างหลังคาเดิม สามารถรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของหลังคาอีกชั้นรึไม่ หากใช้ไปนานๆกระเบื้องเก่าที่ไม่ได้รื้อออกจะค่อยๆแตกหล่นใส่ฝ้าเพดานเสียหายต้องตามเก็บซ่อมฝ้าเรื่อยๆ หรือกรณีหลังคาที่มุงทับใช้เป็นเมทัลชีทหากกรณีเมทัลชีทรั่วซึมซึ่งเกิดขึ้นได้ หลังคาที่มุงซ้อนไว้จะซ่อมแบบไหน หรือกรณีต้องซ่อมจะไม่สามารถเปิดฝ้าเพดานและเปิดกระเบื้องจากด้านล่างขึ้นไปซ่อมแซมเหมือนปกติได้ เพราะหลังคาทับกันสองชั้น

4. กรณีบ้านทาวน์เฮ้าส์ไม่รื้อกระเบื้องเดิมแต่ใช้วิธีมุงหลังคาเมทัลชีทซ้อนทับหลังคาเดิม ส่วนใหญ่มักพบในทาวน์เฮ้าส์เก่า กระเบื้องหลังคาด้านหลังคามักเป็นลอนคู่หมดอายุการใช้งาน กระเบื้องเดิมกรอบแตกง่าย มักจะพบปัญหาคือ

4.1 หลังคาเมทัลชีทไม่สามารถซ้อนทับลอนกระเบื้องเดิมของบ้านข้างๆที่ติดกันได้ หากต้องการป้องกันน้ำซึมจากหลังคาบ้านข้างๆ ข้ามเข้ามาฝั่งบ้านเรา ต้องมุงเลยเขตบ้านข้างๆไปเล็กน้อย หากบ้านข้างๆคุยกันง่ายประเด็นนี้ข้ามไป หากคุยกันไม่ได้จะมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง

4.2 กรณีที่โชคดีช่างมุงทับได้ดี ก็ไม่มีปัญหา กรณีที่โชคร้ายเจอช่างทำไม่ดี หากต้องซ่อมช่างจะต้องหาวิธีขึ้นหลังคา ซึ่งไม่สามารถเปิดหลังคาจากภายในบ้านได้เหมือนเก่า ส่วนใหญ่คือต้องใช้นั่งร้านหรือบันไดสูงปีนขึ้นหลังคา หากเป็นบ้าน2ชั้นยังพอไหว หากเป็นบ้าน 3-4 ชั้น ต้องเสียเวลาเสียค่าขนย้ายและตั้งนั่งร้านแต่ละครั้งสูงมาก หากผู้รับเหมาเดิมแก้ไม่หาย ต้องหาผู้รับเหมาใหม่ราคาจะสูงขึ้นตามค่าใช้จ่ายและการทำงานที่ยากขึ้น

4.3 กรณีมุงเมทัลชีททับได้ดี แต่เมทัลชีทเองก็มีอายุการใช้งานที่ต้องซ่อมบำรุง ดูได้จากหลังคาเมทัลชีทตามโรงงานที่มีเรียกหาช่างซ่อมหลังคารั่วอยู่เป็นประจำ ก็จะเสียค่าซ่อมบำรุงหลังคาบ้านสูงกว่าปกติ ตามเหตุผลเรื่องความยากในการทำงานขึ้นหลังคาและงานเซอร์วิส

4.4 กรณีกระเบื้องลอนคู่เดิมที่ไม่ได้รื้อออก เริ่มกรอบแตกตกหล่นลงมา หากไม่มีฝ้าก็อาจร่วงใส่ผู้ที่อยู่อาศัย แต่หากมีฝ้าเพดานอาจมีปัญหาจุกจิกเรื่องฝ้าเพดานทะลุ จะมีงานซ่อมฝ้าเพดานแทน หากกระเบื้องแตกหล่นบ่อยมากจนทนไม่ไหว วิธีแก้ทางเดียวคือรื้อเมทัลชีทออก แล้วรื้อกระเบื้องเดิมที่แตกง่าย แล้วมุงเมทัลชีทกลับเข้าไปใหม่ ซึ่งปัญหาข้อนี้จะหมดไปหากรื้อกระเบื้องเดิมออกก่อนมุงเมทัลชีทตั้งแต่แรก วุ่นวายครั้งเดียว ไม่ต้องเสียเงินเสียเวลาวุ่นวายสองรอบ

5. กรณีต้องการเปลี่ยนชนิดกระเบื้องเช่นกระเบื้องลอนคู่หรือโมเนีย เปลี่ยนไปใช้เป็นเมทัลชีท ซึ่งปัจจุปันมีการใช้มากขึ้นเรื่อยๆ หากทำขั้นตอนถูกต้องมีการรื้อกระเบื้องเดิมออกก่อนมุง เมทัลชีทก็เป็นตัวเลือกที่ดี ซึ่งนอกจากสิ่งที่ต้องคำนึง เช่น ความยากง่ายในการขึ้นหลังคาเพื่อซ่อมบำรุงภายหลังแล้ว ยังมีเรื่องของลอนของเมทัลชีทที่เหมาะสมกับบ้าน ซึ่งไม่ใช่เมทัลชีททุกลอนจะมุงแทนกระเบื้องลอนคู่ได้เลย อย่างเมทัลชีทลอนสเปนซึ่งลอนจะคล้ายกับกระเบื้องโมเนียจะต้องใช้องศาหลังคาเท่ากับโมเนีย ไม่สามารถใช้แทนกระเบื้องลอนคู่ทั่วไปได้เนื่องจากองศาความลาดเอียงไม่พอ อีกทั้งหากบ้านเป็นหลังคาโครงไม้ ต้องดูสกรูที่ช่างนำมายึดเมทัลชีทด้วย เนื่องจากสกรูเมทัลชีทเกือบทั้งหมดเป็นสกรูสำหรับยึดแปเหล็ก หากบ้านเป็นแปไม้ควรใช้เป็นสกรูเมทัลชีทสำหรับแปไม้โดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุปันเริ่มมีออกมาใช้แล้ว

6. กรณีที่พบบ่อยเป็นประจำ คือหลังคาต่อเติม การมุงหลังคาส่วนต่อเติม เป็นส่วนที่จะมีปัญหาแรกๆ หากช่างต่อเติมทำงานไม่ได้มาตรฐาน จะเห็นจากปัญหาหลังคารั่วซึมที่จะเห็นชัดก่อนที่ปัญหาอื่นๆจะตามมา ซึ่งงานต่อเติมบ้าน ต่อเติมหลังคามีกันแทบทุกบ้าน หลังจากที่ซื้อบ้านจากโครงการมา ส่วนใหญ่มักจะต่อเติมหลังคาห้องครัว เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย แต่หากผู้รับเหมาต่อเติมโดยไม่คำนึงถึงโครงสร้างฐานรากซึ่งเป็นจุดที่สำคัญสิ่งแรกของงานอาคาร หรือเจ้าของบ้านต่อรองราคาโดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับฐานรากหรือไม่ได้ลงรายละเอียดงาน และโชคร้ายเจอผู้รับเหมาที่ขาดจรรยาบรรณหรือไม่มีความรู้ อาจตัดงบประมาณส่วนฐานราก ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่และเป็นส่วนสำคัญออกเพื่อให้ราคาถูกเพื่อให้ได้งาน เพราะงานฐานรากอยู่ใต้พื้นดินที่เจ้าของบ้านตรวจสอบได้ยากมาก เจ้าของบ้านก็ต้องปวดใจกับงานที่ไม่เรียบร้อย อยู่ไปซ่อมซ่อมไป โชคร้ายมากก็ต้องทุบทิ้ง ต่อเติมมายังไม่คุ้ม ต้องเสียค่ารื้อถอนอีก

7. หากเป็นกรณีที่ทำส่วนต่อเติมมาดีระดับนึง แต่อาจมีปัญหาเรื่องรั่วซึม อาจแก้ไขได้โดยหาสาเหตุที่ทำให้ให้รั่ว ซึ่งต้องมั่นใจก่อนว่าไม่มีปัญหาโครงสร้างทรุดตัว เพราะหากมีเรื่องการทรุดตัว อาจจะแก้ไม่จบ โดยดูสาเหตุที่พบบ่อยๆ ดังนี้

7.1 องศาหลังคา ส่วนต่อเติมส่วนใหญ่ มักมีขนาดพื้นที่จำกัด ซึ่งจะมีผลต่อการออกแบบองศาลาดเอียงของหลังคา โครงสร้างหลังคาต่อเติมส่วนใหญ่มักไปเชื่อมกับตัวบ้านตามแนวคาน ซึ่งหากวางองศาที่ดี อาจไปกดแนวหลังคาให้ต่ำลง จนห้องด้านล่างฝ้าเพดานเตี้ยเกินไป จนเจ้าของบ้านรับไม่ได้ ช่างก็ต้องยกองศาขึ้นเพื่อให้ฝ้าเพดานสูงขึ้น ซึ่งควรเลือกชนิดหลังคาให้เหมาะกับองศาที่ได้ เช่นกระเบื้องลอนคู่ องศาที่เหมาะสมอยู่ที่ 15-20 องศา , เมทัลชีท 5-10 องศา หลังคาโมเนีย 30 องศาขึ้นไป

7.2 ปริมาณน้ำฝนบนส่วนของหลังคาต่อเติม ช่างส่วนใหญ่มักมองแค่หลังคาขนาดนี้ พื้นที่ขนาดนี้ องศาแค่นี้ก็พอ แต่ไม่ได้มองถึงปริมาณน้ำฝนจริงที่หลังคาต่อเติมต้องรับภาระ ซึ่งหลังคาต่อเติมมักจะต้องรับน้ำจากหลังคาชั้นบนที่เทลงมาเติม ทำให้หลังคาต่อเติมรับน้ำฝนมากกว่าขนาดของตัวเอง โดยเฉพาะหลังคาต่อเติมด้านหลังทาวน์เฮ้าส์ซึ่งรับน้ำจากหลังคาบ้านเกือบทั้งหมดที่เทลงมาด้านหลัง ดังนั้นอาจจะต้องเผื่อองศาให้มากขึ้น เผื่อระยะซ้อนทับให้มากขึ้นเพื่อกันน้ำย้อน

7.3 เนื่องจากส่วนต่อเติมรับน้ำมากกว่าขนาดพื้นที่จริง เราสามารถลดปริมาณน้ำที่เทบนหลังคาต่อเติมได้โดยการใส่รางน้ำชายหลังคาของตัวบ้านหลักที่อยู่เหนือส่วนต่อเติม แล้วเดินท่อระบายน้ำแยกออกไป ไม่เทน้ำลงบนหลังคาต่อเติม ระวังอย่าต่อท่อระบายน้ำจากหลังคาด้านบนลงในรางน้ำของส่วนต่อเติม อาจจะพบปัญหารางน้ำล้นของส่วนต่อเติมแทน ซึ่งอาจมีงานงอกต้องรื้อขยายขนาดรางน้ำเพิ่มและขยายระบบท่อระบายน้ำ

7.4 กรณีที่ต่อเติมเสร็จมาแล้วพบปัญหารั่วซึม เพิ่งต่อเติมเสร็จแก้โดยเพิ่มรางน้ำของหลังคาด้านบนแล้ว ก็ยังพบปัญหาหลังคารั่วซึม อาจจะทดลองเปลี่ยนชนิดกระเบื้องให้มีน้ำหนักเบาลง และรองรับน้ำฝนให้ได้มากขึ้นในองศาเดิมที่ทำมา เช่น โมเนียเปลี่ยนเป็นลอนคู่ หรือลอนคู่เปลี่ยนไปใช้เมทัลชีท แต่วิธีนี้หากโครงสร้างยังมีการทรุดตัวอยู่ อาจจะกลับมารั่วซึมอีก

7.5 กรณีที่หลังคาต่อเติมเป็นเมทัลชีทอยู่แล้ว องศาถูกต้อง ต่อเติมมาแล้วรั่ว เคสลักษณะนี้ต้องดูตั้งแต่ช่างมุงว่าเข้าใจงานหลังคาระดับไหน ใช้ช่างปูน ช่างประปา หรือช่างฝึกหัดขึ้นไปมุงหลังคารึป่าว เราเคยเจอบ้านลูกค้าจ้างผู้รับเหมาสร้างบ้านใหม่ใช้เป็นหลังคาเมทัลชีท รั่วตั้งแต่สร้างเสร็จ แก้มา 5-6 ปีก็ยังรั่วอยู่ เจ้าของบ้านอดทนมาก จนทนไม่ไหวเรียกทางบริษัทเราเข้าไปดู สรุปว่าใช้เมทัลชีทลอนสเปน ใส่แปน้อย ระยะแปห่าง ช่างเดิมเหยียบจนลอนยุบตัว เจ้าของบ้านให้ผู้รับเหมาเพิ่มแปแล้ว แต่ยังรั่วซึมอยู่ ทางบริษัทเราแก้โดยเปลี่ยนเมทัลชีทให้ใหม่ ใช้เมทัลชีทลอนมาตรฐาน เพราะองศาลอนยังไม่มากพอสำหรับใช้ลอนสเปน ปรากฏว่าหายสนิทเป็นที่พอใจ เจ้าของบ้านอยู่อาศัยในบ้านได้อย่างสบายใจ